เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่ง: การเคลื่อนไหวของราคา ณ ระดับสำคัญ

เงินเฟ้อในยูโรโซนขยับขึ้นเหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อยู่ที่ 2.1% มองเผิน ๆ อาจดูเหมือนเล็กน้อย แต่เทรดเดอร์ให้ความสนใจกับการขยับเล็ก ๆ เหล่านี้ เหตุผลคือแม้การเกินเป้าหมายเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนความคาดหวังเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยได้อย่างมาก และนั่นส่งผลต่อหุ้นในทันที ตลาดตอบสนองตาม: STOXX 600 ร่วงลงราว 1.5% ขณะที่ DAX ลดลงมากกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนปรับพอร์ตของตน แม้ข้อมูลจริงจะขยับเพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดได้

กลไกการทำงาน – ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อตลาด

เงินเฟ้อไม่ได้สำคัญในฐานะพาดหัวข่าวเท่านั้น แต่สำคัญในสิ่งที่มันบอกเราถึงก้าวต่อไปของ ECB ตัวเลขที่สูงกว่า 2% แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการลดดอกเบี้ยในระยะสั้นมีน้อยลง ตลอดปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงอย่างรวดเร็วสู่ 2% ตอนนี้เกณฑ์สำหรับการลดดอกเบี้ยอีกครั้งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และเทรดเดอร์ก็รับรู้เรื่องนี้แล้ว ตลาดฟิวเจอร์สในปัจจุบันให้น้ำหนักความเป็นไปได้ต่ำกว่า 50% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

สิ่งนี้มีผลต่อหุ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงและคงอยู่นานมักกดดันหุ้นกลุ่มเติบโต แต่เงินเฟ้อมักส่องสว่างไปที่สิ่งที่เราเรียกว่า “ตัวแทน” – กลุ่มพลังงาน ผู้ผลิตอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน หากราคาน้ำมันพุ่ง หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซก็มักจะปรับขึ้นเช่นกัน ซูเปอร์มาร์เก็ตและแบรนด์อาหารสามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบน้อยกว่าบริษัทเทคโนโลยี ตัวเลขแยกย่อยในเดือนสิงหาคมชี้ชัด: อาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบปีต่อปี บริการเพิ่มขึ้น 3.1% แต่พลังงานยังคงลดลง 1.9% รายละเอียดเหล่านี้บอกนักเทรดว่าความกดดันเงินเฟ้อมาจากไหน และกลุ่มใดควรจับตาในกราฟ

การประยุกต์ใช้จริง – การเทรดตามการเคลื่อนไหว

การเกินเป้าหมายครั้งนี้ถือว่าเล็กน้อย ดังนั้นการปรับฐานของดัชนีจึงไม่รุนแรงนัก แต่บางครั้งความประหลาดใจของเงินเฟ้อสามารถจุดไฟให้ตลาดได้ ลองจินตนาการว่าหากพลังงานเป็นตัวขับเคลื่อน: ดัชนีน้ำมันและก๊าซยุโรปก็กำลังทดสอบระดับแนวต้านเก่า มันจะทะลุผ่านไปได้หรือไม่? หากได้ คำถามจริง ๆ คือปริมาณการซื้อขายยืนยันหรือไม่

การทะลุแนวต้านที่มีปริมาณการซื้อขายหนุน มีความสำคัญมากกว่า

ที่มา: TradingView ดัชนีทั้งหมดแสดงผลตอบแทนรวมในรูปดอลลาร์สหรัฐ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2025

DAX ทดสอบระดับ 24,000 สองครั้งในฤดูร้อนปี 2025 ความพยายามทะลุในเดือนมิถุนายนล้มเหลวเพราะปริมาณซื้อขายต่ำ ขณะที่ความพยายามในปลายเดือนกรกฎาคมได้รับการยืนยันจากการเพิ่มขึ้นอย่างแรงของปริมาณซื้อขาย

ดังนั้น นิสัยที่ควรสร้างให้ติดตัวนั้นง่ายมาก: ยืนยันเรื่องราว หากหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานหรือพลังงานพุ่งขึ้นจากการประกาศCPI ให้ตรวจสอบว่าการเคลื่อนไหวนี้มีแรงหนุนหรือไม่ – ไม่ใช่แค่ราคา แต่รวมถึงการมีส่วนร่วมด้วย หากทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ความน่าจะเป็นที่การเคลื่อนไหวจะยืนระยะก็สูงขึ้น แต่ถ้าปริมาณเบาบางและราคาหยุดที่แนวต้าน ก็มักเป็นการหลอกทะลุ และอย่าลืมว่าตลาดมักจะมีการจัดพอร์ตล่วงหน้า หากตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเงินเฟ้อจะสูงกว่า ตัวสะท้อนส่วนใหญ่ก็อาจถูกรวมไว้ในราคาแล้ว

เคล็ดลับสำหรับเทรดเดอร์ – สิ่งที่ควรทำและข้อควรระวัง

• อย่าเทรดตามข่าว สิ่งที่ทำให้ตลาดขยับคือความประหลาดใจ ไม่ใช่ตัวเลขที่ตรงตามคาด หากเงินเฟ้าออกมาตรงตามคาด อย่าคาดหวังว่าตลาดจะผันผวนแรง!
• เจาะลึกในรายละเอียด เงินเฟ้อในภาคบริการจริง ๆ แล้วลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2022 แม้ว่าตัวเลขรวมจะขยับขึ้นเล็กน้อย รายละเอียดแบบนี้สามารถลดทอนการตอบสนองของ ECB และบรรยากาศตลาดได้
• ใช้สัญญาณหลายชั้น นอกจากปริมาณแล้ว ให้ตรวจสอบเส้นแนวโน้ม ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือแม้แต่อินดิเคเตอร์โมเมนตัม หาก Euro STOXX 50 ทะลุแนวต้านและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันพร้อมปริมาณหนุน นั่นคือสัญญาณที่แข็งแรงกว่าการดูราคาล้วน ๆ
• วางแผนการออกล่วงหน้า การประกาศเงินเฟ้อสามารถทำให้ตลาดผันผวนแรง การตั้งจุดหยุดขาดทุนถัดจากแนวรับหรือแนวต้านช่วยจำกัดความเสี่ยงหากตลาดกลับตัว

ข้อสรุป

การขยับขึ้นเล็กน้อยของเงินเฟ้อในยูโรโซนไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดความผันผวนใหญ่โต แต่ก็เป็นการเตือนนักเทรดถึงความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลเศรษฐกิจกับโครงสร้างตลาด สังเกตว่าราคามีพฤติกรรมอย่างไรที่ระดับสำคัญ ๆ และยืนยันการเคลื่อนไหวด้วยปริมาณ คุณก็จะมีโอกาสมากขึ้นในการเปลี่ยนความประหลาดใจของเงินเฟ้อให้เป็นโอกาสทำกำไรแทนที่จะเป็นกับดัก