หน้าแรก > การเรียนรู้ > Stop-Loss กับ Trailing Stop: อันไหนช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่า?

Stop-Loss กับ Trailing Stop: อันไหนช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่า?

Nov 06, 2025 5:34 PM

นักเทรดทุกคนเชื่อว่าพวกเขาสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ จนกว่าตลาดจะเตือนให้รู้ว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ความคิดที่ทำให้ตาสว่างนี้เผยให้เห็นถึง “ภาพลวงตาแห่งการควบคุม” ในการเทรด เรากำหนดจุดเข้า ศึกษากราฟ และตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss) ราวกับว่าเราควบคุมผลลัพธ์ได้ ความจริงแล้ว เครื่องมือทางเทคนิคสามารถควบคุมได้เพียงการตัดสินใจของเราเท่านั้น ไม่ใช่ตลาดเอง! คำสั่ง Stop-Loss และ Trailing Stop ถูกออกแบบมาเพื่อกำหนดขอบเขตของการเทรด — จุดออกอัตโนมัติเพื่อปกป้องเรา แต่แม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะให้การควบคุมทางเทคนิค ความท้าทายที่ลึกกว่านั้นคือการควบคุมอารมณ์ ซึ่งหมายถึงวินัยและกรอบความคิดของเรา คุณตั้ง Stop เพราะต้องการบริหารความเสี่ยงจริง ๆ หรือเพียงแค่หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการยอมรับว่าคุณคิดผิด?

Stop-Loss ปกป้องคุณจากอะไรจริง ๆ ?

ในทางเทคนิค คำสั่ง Stop-Loss เป็นแนวคิดที่เรียบง่าย: มันคือคำสั่งที่ตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อขาย (หรือซื้อ หากเป็นการ Short) สินทรัพย์โดยอัตโนมัติเมื่อราคาขยับสวนทางกับคุณถึงจุดที่กำหนด ในทางปฏิบัติ มันทำหน้าที่เหมือนตาข่ายนิรภัย ป้องกันไม่ให้ตำแหน่งขาดทุนของคุณร่วงลึกเกินไป ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อหุ้นที่ราคา £100 และตั้ง Stop-Loss ที่ 10% ระบบจะขายออกอัตโนมัติเมื่อราคาลดลงถึงประมาณ £90 การกำหนดจุดออกล่วงหน้าช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับ “ขีดจำกัดความเจ็บปวดสูงสุด” ของตัวเองในช่วงที่คุณยังมีสติ มากกว่าที่จะตัดสินใจอย่างตื่นตระหนกในช่วงที่ตลาดตกหนัก

ตัวอย่างคำสั่ง Stop-Loss

ภาพประกอบระดับ Stop-Loss คงที่ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงขาลง ใช้เพื่อการอธิบายเท่านั้น

Stop-Loss ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสิ่งที่เรียกว่า “รอและหวัง” ในขณะที่แท่งเทียนสีแดงกองขึ้นเรื่อย ๆ เทรดเดอร์หลายคนเห็นการขาดทุน 5% ขยายเป็น 50% เพียงเพราะไม่กล้าปิดขาดทุน Stop-Loss บังคับให้เราทำสิ่งที่ยากที่สุด — ตัดขาดทุนให้เร็ว ลองจินตนาการถึงเทรดเดอร์ที่ปฏิเสธจะตั้ง Stop แล้วถือสถานะขาดทุนต่อไป Stop ที่เขาไม่ตั้งไว้นั้น แท้จริงแล้วมีไว้เพื่อปกป้องเขาเอง ใช่ การขาดทุนมันเจ็บ แต่ไม่เจ็บเท่ากับการสูญเสียทั้งหมด! โดยสรุป Stop-Loss ช่วยป้องกันคุณจากการล่มสลายทางการเงินและจากวงจรอารมณ์ที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

Trailing Stop – เครื่องมือแห่งความไว้วางใจ

Trailing Stop เหมือน Stop-Loss ที่มีคุณสมบัติปรับตัวอัตโนมัติ แทนที่จะอยู่ที่ราคาคงที่ มันจะ “ตาม” ตลาดโดยใช้ระยะหรือเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ หากราคากลับตัวลง 5% จากจุดสูงสุด คำสั่ง Trailing Stop จะขายออกทันที ซึ่งหมายความว่าระดับ Stop จะขยับขึ้นอัตโนมัติเมื่อราคาขึ้น เทรดเดอร์มักใช้ Trailing Stop เพื่อป้องกันกำไรที่ยังไม่ปิด (เพื่อ “ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อ”) การใช้ Trailing Stop เป็นการบอกตลาดว่า “ฉันจะอดทนและปล่อยให้เทรดนี้ดำเนินไป ตราบเท่าที่มันยังทำงานได้ดี”

ตัวอย่างคำสั่ง Trailing Stop

Trailing Stop จะปรับตามการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อรักษากำไร ใช้เพื่อการอธิบายเท่านั้น

ในด้านอารมณ์ Trailing Stop เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างความโลภและความรอบคอบ มันช่วยให้คุณอยู่ในเทรดที่กำลังมีกำไรได้นานขึ้น เพราะคุณรู้ว่าบางส่วนของกำไรได้รับการป้องกันแล้ว ในตลาดที่ผันผวน นี่คือความโล่งใจที่ดี หากเกิดการกลับตัวแรง Trailing Stop จะเข้ามาช่วยรักษากำไร อย่างไรก็ตาม เครื่องมือนี้ก็อาจสร้างความหงุดหงิดได้เช่นกัน เพราะบางครั้งความผันผวนปกติของตลาดก็อาจทำให้คุณถูกตัดออกจากเทรดก่อนเวลา คุณอาจต้องยอมรับว่าการจับทุกจังหวะของตลาดไม่สำคัญเท่ากับการปกป้องกำไรที่คุณทำได้แล้ว เครื่องมือนี้ต้องการ “ความมั่นใจในกลยุทธ์” และ “การยอมรับความไม่สมบูรณ์” ของการเทรด

อันไหนดีกว่า – หรือเจ็บน้อยกว่า?

เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง Stop-Loss และ Trailing Stop หลายคนมักถามว่า “อันไหนดีกว่า” ความจริงคือพวกมันปกป้องคุณในรูปแบบที่ต่างกัน Stop-Loss ช่วยป้องกันการขาดทุนรุนแรง ส่วน Trailing Stop ช่วยป้องกันกำไรที่คุณทำได้ ไม่มีอันไหนดีกว่าอีกอันอย่างแท้จริง เพราะแต่ละแบบรับมือกับความเสี่ยงต่างประเภทกัน Stop-Loss ปกป้องคุณจากการขาดทุนหนัก ในขณะที่ Trailing Stop ป้องกันไม่ให้คุณคืนกำไรกลับสู่ตลาด ดังนั้นคุณต้องตัดสินใจว่าความสำคัญของคุณคืออะไร!

มันยังขึ้นอยู่กับสภาพตลาดด้วย ในตลาดที่ผันผวน Stop ที่ตั้งแคบเกินไปอาจถูกกระตุ้นบ่อย ทำให้หงุดหงิด ขณะที่ Stop คงที่ที่ตั้งห่างออกไปอาจ “เจ็บน้อยกว่า” ในทางกลับกัน ในตลาดที่มีแนวโน้มแข็งแรง Trailing Stop มักจะทำงานได้ดี เทรดเดอร์บางคนใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน: ตั้ง Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง แล้วเปลี่ยนเป็น Trailing Stop เมื่อเทรดเริ่มมีกำไร

Stop-Loss vs Trailing Stop: ข้อดีและข้อเสีย


สรุป – ตัวหยุดที่แท้จริงคือตัวคุณเอง

ไม่ว่าคุณจะใช้ Stop-Loss, Trailing Stop หรือทั้งสองแบบ ความรับผิดชอบที่แท้จริงอยู่ที่ตัวคุณเอง ตลาดจะทดสอบขีดจำกัดของคุณอยู่เสมอ คำสั่ง Stop ช่วยให้คุณลงมือเมื่อถึงจุดจำกัดนั้น แต่มันจะได้ผลก็ต่อเมื่อคุณใช้มันอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่ปกป้องทุนของคุณในระยะยาวไม่ใช่ความฉลาด แต่คือ “วินัย”

หากใช้ให้ถูกต้อง เครื่องมือทั้งสองแบบนี้จะช่วยสร้างโครงสร้างในการเทรดและลดแรงกดดันทางอารมณ์ กุญแจสำคัญคือทำให้แน่ใจว่าความผิดพลาดใด ๆ สามารถควบคุมได้และไม่ลุกลาม หน้าที่ของคุณคือเคารพขอบเขตที่คุณตั้งไว้ หากคุณทำได้ เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยคุณได้จริง ๆ

ขอให้เทรดอย่างมีความสุข!

ข่าวสารล่าสุด

Nov 05, 2025 4:16 PM
ความล่าช้าของเงิน: ทำไมโลหะน้องชายของทองคำอาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการรีบาวด์
Nov 04, 2025 6:09 PM
หุ้นระยะสั้นยังสามารถปกป้องคุณในสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงได้อยู่ไหม?
Nov 04, 2025 12:11 PM
จากตลาดสู่แนวคิด: EC Markets ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ในวงการกีฬา
Nov 03, 2025 11:08 AM
รายได้ผันผวน ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยไว้ | สรุปรายสัปดาห์: 27–31 ตุลาคม 2025
Oct 31, 2025 5:21 PM
แนะนำ EC Academy: วิธีที่ชาญฉลาดกว่าในการเรียนรู้การเทรดออนไลน์
Oct 30, 2025 3:51 PM
วิธีสร้างรูทีนการเทรดที่ได้ผล
Oct 29, 2025 1:03 PM
ฤดูกาลของเดือนพฤศจิกายน: ดัชนีหุ้นจะพุ่งขึ้นจริงหรือไม่?
Oct 29, 2025 12:58 PM
EC Markets คว้ารางวัล “เงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด” จากงาน UF Awards Asia 2025
Oct 28, 2025 11:30 AM
ภาคการลงทุนเชิงรับในโลกแบบผ่อนคลายทางการเงิน: ยังมีมูลค่าสูงเกินไปหรือไม่?
Oct 27, 2025 11:28 AM
พลังงานและผลประกอบการขับเคลื่อนการปรับตัวขึ้นทั่วโลก | สรุปรายสัปดาห์: 20–24 ตุลาคม 2025
Oct 23, 2025 4:35 PM
ทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ขาดทุน – และวิธีหลีกเลี่ยง