ทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ขาดทุน – และวิธีหลีกเลี่ยง
ไม่ใช่เรื่องลับเลยที่นักเทรดส่วนใหญ่ขาดทุน: สถิติบ่งชี้อย่างชัดเจน แต่ความขาดทุนเหล่านี้มักไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ กับดักทั่วไปอย่างการไม่จำกัดความเสี่ยง การใช้เลเวอเรจมากเกินไป และการเทรดตามอารมณ์ มักทำให้ทั้งมือใหม่ (และแม้แต่มืออาชีพ) พลาดท่าได้ง่าย ๆ
บทความนี้จะอธิบายว่าทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ถึงขาดทุน และคุณจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดกับตัวเองได้อย่างไร เราจะพูดในภาษาที่เข้าใจง่าย เช่น “เทรดเอาคืนหลังจากขาดทุน” หรือ “เพิ่มออเดอร์ในเทรดที่ผิดพลาด” พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงโดยใช้เครื่องมือของ EC Markets เช่น บัญชีทดลอง เลเวอเรจที่ปรับได้ และฟีเจอร์จัดการความเสี่ยง

*เพื่อการอธิบายเท่านั้น
การจัดการความเสี่ยงที่ไม่ดี
สาเหตุหลักประการหนึ่งที่นักเทรดขาดทุนคือพฤติกรรมการบริหารความเสี่ยงที่ไม่ดี ลองนึกภาพนักพนันที่เพิ่มเงินเดิมพันหลังจากแพ้ทุกครั้ง หวังว่าจะได้เงินคืน — นั่นคือ “เพิ่มออเดอร์ในเทรดที่แย่” นักเทรดจำนวนมากรีบเทรดโดยไม่คิดก่อน เช่น ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน หรือใช้เงินส่วนใหญ่ของพอร์ตในออเดอร์เดียว อีกตัวอย่างคือ “เทรดเอาคืนหลังจากขาดทุน” — ปล่อยให้อารมณ์ขับเคลื่อนการเทรดอย่างหุนหันพลันแล่น
เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักเหล่านี้ ควรทำให้การควบคุมความเสี่ยงเป็นเรื่องอัตโนมัติ ตั้งจุดตัดขาดทุนหรือทำกำไรทุกครั้ง และอย่าเสี่ยงเกินกว่าส่วนเล็ก ๆ ของเงินในแต่ละออเดอร์ แพลตฟอร์มของ EC Markets มีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงในตัว เช่น การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ และสามารถปรับขนาดออเดอร์ได้อย่างง่ายดาย ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์! การใช้บัญชีทดลองก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี กล่าวโดยสรุปคือ จัดการความเสี่ยงให้เหมือนเป็นหัวหน้าในการเทรดของคุณ — หากละเลย มันจะสอนคุณในแบบที่เจ็บปวด!
การใช้เลเวอเรจมากเกินไป
เลเวอเรจอาจดูเหมือนเป็น “เงินฟรี” จนกว่าจะเกิดผลเสีย การใช้เลเวอเรจมากเกินไปคือการกู้ยืมเพื่อเปิดออเดอร์ใหญ่เกินไป ทำให้การเคลื่อนไหวของตลาดเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลให้ขาดทุนหนักได้ แม้ว่า EC Markets จะเสนอเลเวอเรจสูงสุดถึง 1:1000 แต่จำไว้ว่าคุณสามารถปรับลดได้เสมอ มือใหม่มักเข้าใจผิดว่า “เลเวอเรจสูง = กำไรมาก” แต่ในความเป็นจริง “ความเสี่ยงก็มากตาม” ตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหวเพียง 1 จุดที่เลเวอเรจ 1:1000 ก็อาจทำให้พอร์ตของคุณหายวับได้ หากไม่จัดการให้ดี
เริ่มจากเลเวอเรจต่ำก่อน แล้วค่อยเพิ่มเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น ฟีเจอร์เลเวอเรจที่ปรับได้ของ EC Markets ช่วยให้คุณเลือกอัตราที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ โดยทั่วไปนักเทรดที่รอบคอบอาจเริ่มจาก 10-50:1 เท่านั้น อีกทั้งควรรักษาขนาดออเดอร์ตามแผนที่วางไว้ การควบคุมเลเวอเรจจะช่วยให้คุณไม่ต้องสูญเสียพอร์ตเพียงเพราะการเคลื่อนไหวของตลาดเล็กน้อย
อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเวอเรจ? อ่านต่อได้ที่ ที่นี่
การเทรดตามอารมณ์และความหุนหันพลันแล่น
อีกหนึ่งกับดักคือการปล่อยให้อารมณ์ควบคุมการเทรด เราทราบดีว่าการเทรดเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น แต่การทำตามความรู้สึกโดยไม่คิดให้รอบคอบเป็นอันตรายมาก ตัวอย่างเช่น หลังจากขาดทุนติดต่อกัน บางคนจะ “เทรดเอาคืน” เพื่อพยายามได้เงินคืนทันที ส่งผลให้เปิดออเดอร์ใหญ่โดยไม่วางแผน บางคนก็ “รีบขาย” ออเดอร์ที่กำไรเพราะกลัว หรือถือออเดอร์ขาดทุนไว้นานเกินไปเพราะหวังให้ตลาดกลับตัว
คุณอาจถูกทาง 1 ครั้ง 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง… แต่จำไว้ว่าความน่าจะเป็นในการขาดทุนก็ยังมีอยู่!
เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์ ควรสร้างวินัยในการเทรดที่มั่นคง วิธีง่าย ๆ คือ ก่อนเข้าซื้อขาย ให้ตรวจสอบตามเช็กลิสต์ (เช่น “ตรงตามแผนไหม? ตั้งจุดตัดขาดทุนหรือยัง?”) หลังจากเทรดเสร็จ ให้ทบทวนอย่างใจเย็น อีกทั้งควรเก็บบันทึกการเทรด เขียนเหตุผลและอารมณ์ของแต่ละออเดอร์ จะช่วยให้เห็นรูปแบบพฤติกรรมของตัวเอง และผลักดันให้ยึดมั่นในกลยุทธ์ สรุปคือ เทรดตามแผนของคุณ ไม่ใช่ตามอารมณ์!
ไม่มีแผนหรือกลยุทธ์
สุดท้าย การเทรดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจนก็เหมือนขับรถโดยปิดตา นักเทรดบางคนเทรดแบบสุ่ม ดูกราฟแล้วตัดสินใจทันทีโดยไม่มีแนวทางที่ชัดเจน
ในทางกลับกัน ควรเขียนแผนการเทรดง่าย ๆ ก่อนเริ่ม ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพียงระบุประเด็นหลัก เช่น จะเทรดตลาดใด สัญญาณใดใช้ในการซื้อหรือขาย และจะเสี่ยงเงินเท่าไหร่ในแต่ละออเดอร์ ปฏิบัติตามแผนนี้จนกว่าจะมีการวิเคราะห์ใหม่ที่ชัดเจนว่าควรเปลี่ยน
เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มรู้ว่าอะไรใช้ได้ผลและอะไรไม่ การเทรดตามกลยุทธ์ที่ชัดเจนจะช่วยเปลี่ยนจากการ “เสี่ยงโชค” ไปสู่การเป็น “อาชีพที่ใช้ทักษะ”
สรุป
การเทรดเป็นเรื่องท้าทาย แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องขาดทุน ความแตกต่างอยู่ที่ “นิสัย” นักเทรดที่ขาดทุนมักไล่ตามความสูญเสีย ใช้เลเวอเรจมากเกินไป และเทรดโดยขาดสติ ในทางกลับกัน นักเทรดที่ประสบความสำเร็จจะใช้จุดตัดขาดทุนอย่างรัดกุม เสี่ยงในปริมาณน้อย และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ EC Markets มีเครื่องมือช่วยสร้างนิสัยการเทรดที่ดี เช่น บัญชีทดลอง สำหรับฝึกฝน เลเวอเรจที่ปรับได้ และฟีเจอร์จัดการความเสี่ยง เช่น การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ
โดยสรุปแล้ว การเทรดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยนิสัยที่ดีและเครื่องมือที่เหมาะสม คุณสามารถพลิกโอกาสให้เป็นของคุณได้ จงซื่อสัตย์กับตัวเอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และยึดมั่นในกฎที่มีเหตุผล หากคุณทำได้ คุณจะเข้าใจว่าทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ขาดทุน — และยิ่งไปกว่านั้น คุณจะเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ขาดทุน