ดัชนีแนสแด็ก 100 กลับมาอยู่ในสปอตไลต์อีกครั้ง หลังจากเพิ่มขึ้นมากกว่า 23,100 จุดตั้งแต่ต้นปี ดัชนีได้เข้าสู่ระดับที่ไม่เคยไปถึงมาก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทใหญ่ ๆ ในตลาด ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย ความเชื่อมั่นของตลาดจึงอยู่ในระดับสูง แต่ในระดับนี้ เทรดเดอร์เริ่มตั้งคำถามว่า: นี่คือแนวโน้มจริง หรือเป็นเพียงการพุ่งขึ้นเกินจริง?
กราฟบอกอะไรกับเรา
ในเบื้องต้น การพุ่งขึ้นของแนสแด็กดูแข็งแกร่ง มันทะลุระดับสูงสุดของปีที่แล้ว ฝ่าต้านและอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลัก เช่น เส้น 50 วันและ 200 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณกระทิงตามตำรา แต่เมื่อดูให้ลึกลงไป ก็เริ่มเห็นรอยร้าวบางอย่าง
กราฟรายสัปดาห์แนสแด็ก 100 – แนวโน้มระยะยาวห่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

แหล่งที่มา: TradingView ดัชนีทั้งหมดคิดตามผลตอบแทนรวมในสกุลดอลลาร์สหรัฐ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2025
ค่า RSI อยู่ใต้ระดับ 70 เล็กน้อย – ยังไม่เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป แต่ก็ใกล้พอที่จะทำให้เกิดความกังวล แม้มันยังไม่บ่งชี้ถึงการกลับตัว แต่ก็เป็นสัญญาณว่าแรงส่งอาจเริ่มร้อนแรงเกินไป
ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายกลับไม่สอดคล้องกับราคา แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณซื้อขายกลับลดลง ความแตกต่างลักษณะนี้ – ราคาขึ้น ปริมาณลด – ไม่ใช่สัญญาณที่ดี การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งมักจะมาพร้อมกับปริมาณที่แข็งแกร่ง หากขาดสิ่งนั้น อาจหมายถึงนักลงทุนเข้าร่วมในตลาดน้อยลง
อีกประเด็นคือ ราคาห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่มากเกินไป ระยะห่างนี้ทำให้ตลาดมีความเสี่ยงที่จะเกิดการย่อตัว คิดเหมือนกับยางยืด – ยิ่งดึงมาก ก็ยิ่งมีโอกาสดีดกลับแรง
กราฟรายวันแนสแด็ก 100 – แรงส่งเพิ่มขึ้น RSI ใกล้เขตซื้อมากเกิน

แหล่งที่มา: TradingView ดัชนีทั้งหมดคิดตามผลตอบแทนรวมในสกุลดอลลาร์สหรัฐ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2025
ดังนั้น แม้แนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ แต่กราฟก็เริ่มส่งสัญญาณเบื้องต้นว่าอาจใกล้ถึงจุดพักตัว!
แรงส่งหรือหมดแรง?
ฝ่ายกระทิงมีเหตุผลมากมายให้รู้สึกตื่นเต้น รายได้ของบิ๊กเทคแข็งแกร่ง กระแส AI ยังมาแรง และการหยุดขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยให้หุ้นเติบโตมีพื้นที่หายใจ ปีที่แล้ว แค่มีข่าวลือว่าจะลดดอกเบี้ยก็ทำให้แนสแด็กพุ่งขึ้นได้แล้ว บวกกับเงินทุนหลายพันล้านไหลเข้าสู่กองทุนที่เน้นเทคโนโลยี ก็ไม่แปลกที่แรงส่งอาจยังต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อราคาทะลุจุดสูงสุดใหม่ ก็ยิ่งไม่มีแนวต้านด้านบนมาขวาง – ทำให้นักลงทุนยิ่งแห่เข้าซื้อตาม
แต่ในอีกด้านหนึ่ง สัญญาณความเหนื่อยล้าก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ
RSI อยู่ในระดับสูง ปริมาณเริ่มลดลง แม้ว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ปริมาณเฉลี่ยรายวันกลับต่ำกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้า – เป็นสัญญาณคลาสสิกของการเข้าร่วมน้อยลง ดัชนีโมเมนตัมอย่าง MACD ก็เริ่มแบน เทรดเดอร์บางคนยังสังเกตเห็น “ภาวะแตกต่างในทางลบ” ซึ่งก็คือเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่โมเมนตัมไม่สามารถยืนยันตามได้ มักเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มเริ่มหมดแรง
อีกความกังวลคือ ความกว้างของตลาด หุ้นขนาดใหญ่น้อยตัว (เช่น Nvidia และเพื่อน ๆ) เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก หากตลาดโดยรวมไม่ร่วมด้วย ก็แปลว่าการขึ้นอาจไม่แข็งแรงอย่างที่คิด การพึ่งพาผู้นำเพียงไม่กี่ตัวไม่สามารถประคองตลาดไปได้ตลอด
กราฟรายวันแนสแด็ก 100 – MACD แสดงภาวะ Bearish Divergence และ RSI เริ่มแบน

แหล่งที่มา: TradingView ดัชนีทั้งหมดคิดตามผลตอบแทนรวมในสกุลดอลลาร์สหรัฐ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ของผลการดำเนินงานในอนาคต ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2025
สิ่งที่เทรดเดอร์กำลังจับตามอง
การย่อตัวไม่ได้แปลว่าหายนะ แต่วิธีที่ตลาดตอบสนองต่อการย่อตัวนั้นสำคัญ
หากแนสแด็กเริ่มปรับฐาน ให้จับตาระดับที่เพิ่งเบรกเอาท์และเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน หากดีดกลับจากจุดนั้น อาจหมายถึงการพักตัวปกติ แต่หากร่วงผ่านระดับเหล่านั้นอย่างมั่นคง ก็อาจเปิดทางให้การปรับฐานลึกขึ้น
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมจะช่วยบอกเรื่องราว หาก RSI ร่วงต่ำกว่า 60 หรือ MACD ตัดลงด้านล่าง ก็อาจยืนยันว่าโมเมนตัมเริ่มลดลง ความกว้างของตลาดและตัวชี้วัดความผันผวนอย่าง VIX ก็ควรติดตาม หากพุ่งขึ้น แปลว่านักลงทุนเริ่มกังวล
บทสรุป
นี่ไม่ใช่เรื่องของความตื่นตระหนก แต่เป็นเรื่องของการเตรียมพร้อม
แนสแด็กยังคงทะยาน และแนวโน้มยังเป็นขาขึ้น แต่เมื่อเริ่มเห็นสัญญาณความร้อนแรงและการเตือนล่วงหน้า นี่อาจเป็นเวลาที่ดีในการปรับจุดตัดขาดทุนให้กระชับ ยืดหยุ่นกับกลยุทธ์ และปล่อยให้ตลาดแสดงทิศทางออกมา