อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและการกำหนดขนาดการเทรด

คุณเคยรู้สึกไหมว่าการเทรดเหมือนการโยนเหรียญ ที่มีโอกาส 50/50? จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย — นี่แหละคือจุดที่อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและการกำหนดขนาดการเทรดมีบทบาทสำคัญ
ในบทเรียนนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและการกำหนดขนาดการเทรด รวมถึง:
- ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจึงสำคัญมาก
- วิธีการคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่างถูกต้อง
- การกำหนดขนาดการเทรดหมายถึงอะไร และมันช่วยปกป้องบัญชีของคุณจากการขาดทุนได้อย่างไร
- วิธีคำนวณขนาดการเทรดสำหรับทุกการเทรด
มีหลายสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ งั้นมาเริ่มกันเลย! เริ่มจากคำถามแรก — อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคืออะไร?
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปดูการคำนวณ มาทำความเข้าใจแนวคิดนี้กันก่อน — อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะบอกคุณว่าคุณกำลังเสี่ยงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่อาจได้รับ ลองดูตัวอย่างนี้:
- สมมติว่าคุณยอมเสี่ยง $100 เพื่อหวังผลกำไร $300
- ดังนั้นอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนคือ 1:3
แล้วมันทำงานอย่างไร? มาดูรายละเอียดกัน:
สูตรคำนวณนั้นง่ายมาก:
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน = (ราคาเป้าหมาย - ราคาที่เข้าเทรด) ÷ (ราคาที่เข้าเทรด - จุดตัดขาดทุน)
สูตรนี้จะช่วยให้คุณตอบคำถามว่า “ดีลนี้คุ้มค่าที่จะเทรดไหม?” หรือ “ฉันควรไปโฟกัสกับดีลอื่นแทนไหม?”
ทำไมอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจึงสำคัญกว่าค่า Win Rate
คุณอาจคิดว่าคุณต้องชนะเกือบทุกดีลถึงจะทำกำไรได้ แต่ความจริงคือ แม้คุณจะชนะเพียง 40% ของดีล คุณก็ยังสามารถทำกำไรได้ — ถ้าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณเป็นบวก มาดูตัวอย่างกัน:
วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน:
สมมติว่าคุณชนะ 4 จาก 10 ดีล โดยแต่ละดีลเสี่ยง $100 เพื่อหวังกำไร $300 (3:1) ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?
- กำไรทั้งหมด = 4 x $300 = $1,200
- ขาดทุนทั้งหมด = 6 x $100 = $600
- กำไรสุทธิ = $600
นี่แหละคือพลังของการเข้าใจการคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและการใช้มันอย่างถูกต้อง หากคุณใช้ได้อย่างมีวินัย คุณจะเริ่มเห็นกำไรที่มั่นคงและมีการคำนวณอย่างดี
วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
ถึงเวลาคำนวณแล้ว แต่มันง่ายกว่าที่คุณคิด:
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดรูปแบบการเทรดของคุณ
ราคาที่เข้าเทรด: $100
จุดตัดขาดทุน: $90
ราคาเป้าหมาย: $130
ขั้นตอนที่ 2: ใส่ค่าลงในสูตร
ความเสี่ยง = $100 - $90 = $10
ผลตอบแทน = $130 - $100 = $30
อัตราส่วน = $30 / $10 = 3:1
นี่คือลักษณะการคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ คุณยอมเสี่ยง $1 เพื่อหวังผลตอบแทน $3 กฎสำคัญคืออะไร? อย่าเข้าเทรด เว้นแต่ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคุ้มค่ากับความเสี่ยง หากคุณยึดกฎนี้ไว้ คุณจะสามารถปกป้องพอร์ตของคุณและเริ่มเห็นผลกำไรที่มั่นคง
การกำหนดขนาดการเทรดคืออะไร?
ตอนนี้เราได้พูดถึงอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้ว มาลองเปลี่ยนหัวข้อกันเล็กน้อย การกำหนดขนาดการเทรดจะช่วยตอบคำถามว่า “คุณควรเสี่ยงเงินทุนเท่าไหร่ในดีลนี้?” ถ้ามากเกินไป คุณอาจล้างพอร์ตได้ แต่ถ้าน้อยเกินไป กำไรอาจไม่ส่งผลอะไรเลย นักเทรดมืออาชีพจะใช้การกำหนดขนาดการเทรดเพื่อควบคุมความเสี่ยงในแต่ละดีล โดยปกติจะเสี่ยงเพียง 1–2% ของเงินทุนทั้งหมด — ไม่มากไป ไม่น้อยไป
วิธีคำนวณขนาดการเทรด
นี่คือสูตร 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณคำนวณขนาดการเทรดของคุณได้:
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดความเสี่ยงต่อหนึ่งดีล สมมติว่าคุณมีบัญชีมูลค่า $10,000 และต้องการเสี่ยง 2% ความเสี่ยงสูงสุดของคุณ = $200
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดและเข้าใจระยะห่างของจุดตัดขาดทุน สมมติว่าราคาเข้าเทรดของคุณคือ $100 และจุดตัดขาดทุนคือ $95 ความเสี่ยงต่อหน่วย = $5
ขั้นตอนที่ 3: ใช้สูตรนี้:
ขนาดการเทรด = ความเสี่ยงสูงสุด / ความเสี่ยงต่อหน่วย
ขนาดการเทรด = $200 / $5 = 40 หน่วย
ดังนั้น ในกรณีนี้ คุณจะซื้อหุ้น 40 หุ้นเพื่อให้ยังอยู่ในขอบเขตความเสี่ยงของคุณ นี่คือวิธีการคำนวณขนาดการเทรด และเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในการเทรด อย่าลืมจดไว้และจำให้ขึ้นใจ

ทำไมการกำหนดขนาดการเทรดจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของคุณ
การเทรดไม่ควรถูกมองว่าเป็นการหวัง “ตีโฮมรัน” แต่เป็นเรื่องของการเอาตัวรอดจากช่วงที่ขาดทุน การกำหนดขนาดการเทรดที่เหมาะสมช่วยได้ดังนี้:
- ปกป้องบัญชีของคุณเมื่อเกิดการขาดทุน
- หลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยอารมณ์
- ทำให้ระดับความเสี่ยงของคุณคงที่
เมื่อคุณรู้วิธีคำนวณขนาดการเทรด คุณก็จะสามารถกำจัดหนึ่งในความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของการเทรดได้ นั่นคือ “การเปิดโพซิชั่นที่มากเกินไป” หากจำสิ่งนี้ไว้ได้ คุณจะสามารถปกป้องบัญชีของคุณจากการขาดทุนหนักได้
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและขนาดการเทรด: สูตรที่คุณควรรู้
1) อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: ราคาเป้าหมาย - ราคาเข้า ÷ ราคาเข้า - จุดตัดขาดทุน
2) ขนาดการเทรด: ความเสี่ยงของบัญชี ÷ ความเสี่ยงต่อหุ้น
ตัวอย่างเช่น:
- ความเสี่ยง $200
- ระยะห่างของจุดตัดขาดทุน $5
- ขนาดการเทรด = 40 หุ้น
หากคุณสามารถเข้าใจสูตรสองข้อนี้ได้ มันจะสำคัญกว่าตัวชี้วัดใดๆ บนกราฟของคุณเสียอีก
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงเกี่ยวกับอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและขนาดการเทรด
นักเทรดมือใหม่มักจะทำผิดในจุดนี้ ดังนั้นมาดูกันว่าคุณควรหลีกเลี่ยงอะไร!
1) อย่าคาดเดาขนาดการเทรดของคุณ: ควรคำนวณจากระดับความเสี่ยงเสมอ
2) อย่ามองข้ามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: การเทรดที่มีอัตรา 1:1 มักไม่คุ้มค่า
3) อย่าใช้ขนาดล็อตเท่ากันทุกดีล: แต่ละการตั้งค่าการเทรดไม่เหมือนกัน ควรปรับขนาดการเทรดให้เหมาะสม
4) อย่าขยับจุดตัดขาดทุน: อย่าทำลายอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณด้วยการปล่อยให้การขาดทุนเพิ่มขึ้น
หากคุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ คุณจะเริ่มเทรดแบบมืออาชีพ แทนที่จะเป็นนักพนัน
สรุปอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนและขนาดการเทรด: เทรดด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์
ตอนนี้คุณควรเข้าใจแล้วว่า:
- วิธีคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
- ทำไมอัตราส่วนนี้ถึงสำคัญกว่าการทำนายให้ถูก
- การกำหนดขนาดการเทรดคืออะไรและใช้อย่างไร
- วิธีคำนวณขนาดการเทรดตามเงินทุนและระดับความเสี่ยงของคุณ
เมื่อคุณผสมผสานอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ดีเข้ากับการกำหนดขนาดการเทรดอย่างมีวินัย คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกดีล สิ่งสำคัญคือ “ความสม่ำเสมอ” จงจำกฎนี้ไว้และยึดมั่นในมัน: เสี่ยงให้น้อย กำไรให้มาก อยู่ในเกมให้นาน! นี่คือสูตรแห่งชัยชนะ หากคุณทำได้ คุณจะเริ่มเห็นกำไรอย่างต่อเนื่องในที่สุด
พร้อมสำหรับบทเรียนถัดไปหรือยัง? อ่านต่อได้ที่ EC Markets Academy ซึ่งเราจะพาคุณไปเรียนรู้เรื่องการเทรดเพิ่มเติม เพื่อยกระดับจากมือใหม่ไปสู่การเป็นนักเทรดที่มั่นใจ พบกันในบทเรียนต่อไป!